แนวทางการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
พีดีไอมีจุดหมายและความมุ่งมั่นเป็นผู้นำการพัฒนา ขับเคลื่อนและเติบโตในธุรกิจที่ด้านพลังงานทดแทน ด้านวัสดุและด้านบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนในทุกๆ ด้าน อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ และใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาใช้ในโครงการธุรกิจใหม่เพื่อปกป้อง ลดผลกระทบและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
ปี 2560 พีดีไอได้ยุติธุรกิจสังกะสีในกระบวนการผลิตแบบเดิมที่ดำเนินการมาเป็นระยะเวลากว่า 33 ปี บริษัทฯ จึงได้มีการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นจากการยุติธุรกิจสังกะสี โดยได้ดำเนินการบริหารจัดการอย่างเหมาะสมและเป็นไปตามกฎระเบียบของราชการ ซึ่งพีดีไอมั่นใจว่า การยุติการผลิตสังกะสีในกระบวนการผลิตแบบเดิมจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบข้างในทุกพื้นที่ปฏิบัติการของพีดีไอ อันเป็นผลจากการดำเนินงานตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งมีการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง
ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการติดตามและประเมินผลคุณภาพดิน น้ำและอากาศ รวมทั้งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการจัดการของเสียให้เป็นไปตามเกณฑ์ทั้งด้านเทคนิคและมาตรฐานการประเมินผลซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง
คุณภาพอากาศที่ปล่องควัน
ปล่องควัน | สำนักงาน | พารามิเตอร์ | หน่วย | มาตรฐาน | ผลตรวจวัดปี 2560 |
---|---|---|---|---|---|
กระบวนการผลิตกรดกำมะถัน | พีดีไอ-ตาก | ก๊าซชัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) | ส่วนในล้านส่วน | ไม่เกิน 500 | 251 |
เตาหลอมโลหะสังกะสี | พีดีไอ-ตาก | ฝุ่นรวมทั้งหมด (Total suspended particulate) | มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร | ไม่เกิน 400 | 101 |
หมายเหตุ : ตรวจวัดโดย บริษัท บริษัท เอส.พี.เอส. คอนซัลติ้ง เซอร์วิส จำกัด
คุณภาพอากาศในบรรยากาศ
พารามิเตอร์ | สำนักงาน | หน่วย | มาตรฐาน | ผลตรวจวัดปี 2560 |
---|---|---|---|---|
ก๊าซชัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) | พีดีไอ-ตาก | มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร | ไม่เกิน 0.30 | 0.011 |
ฝุ่นรวมทั้งหมด(TSP) | พีดีไอ-ตาก | มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร | ไม่เกิน 0.33 | 0.0441 |
ฝุ่นรวมทั้งหมด(TSP) | พีดีไอ-แม่สอด | มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร | ไม่เกิน 0.33 | 0.036-0.155 |
ฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า10 ไมครอน(PM-10) | พีดีไอ-แม่สอด | มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร | ไม่เกิน 0.12 | 0.016-0.072 |
หมายเหตุ : 1. มาตรฐานก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในบรรยากาศ เฉลี่ย 24 ชั่วโมง
พารามิเตอร์ | หน่วย | มาตราฐาน | พีดีไอ-ตาก |
---|---|---|---|
ความเป็นกรด ด่าง (pH) | - | 5.5 - 9 | 7.56 |
สังกะสี (Zn) | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 5 | 0.12 |
แคดเมียม (Cd) | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 0.03 | 0.004 |
แมงกานีส (Mn) | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 5 | 0.33 |
ตะกั่ว (Pb) | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 0.2 | 0.0006 |
อาร์เซนิก (As) | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 0.25 | 0.0003 |
ปรอท (Hg) | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 0.005 | 0.0005 |
หมายเหตุ 1) มาตรฐานก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในบรรยากาศ เฉลี่ย 24 ชั่วโมง
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
การระบายก๊าซเรือนกระจกส่วนใหญ่ของพีดีไอเกิดจากการใช้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อนจากเชื้อเพลิงต่างๆ ในกระบวนการถลุงโลหะสังกะสี ในปี 2560 พีดีไอปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมด 63,374 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ลดลงมากร้อยละ 71 จากปี 2559 จำนวน 156,155 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เนื่องจากในปีที่ผ่านมาพีดีไอใช้พลังงานรวมทั้งสิ้นเพียง 393,687 กิกะจูลโดยเป็นพลังงานไฟฟ้า 372,859 กิกะจูล และพลังงานความร้อนจากเชื้อเพลิง 20,828 กิกะจูล ลดลงจากปี 2559 จำนวน 1,163,260 กิกะจูล หรือลดลงร้อยละ 75 โดยโรงงานตากได้หยุดการผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560
การใช้น้ำ
พีดีไอมีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดการสูญเสียและนำกลับมาใช้ใหม่ ในปี 2560 พีดีไอมีปริมาณการใช้น้ำในโรงงานรวม 0.81 ล้านลูกบาศก์เมตร ประมาณร้อยละ 50 มีการนำกลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่ในกระบวนการผลิตและในพื้นที่อื่นๆ ส่วนการบริหารจัดการน้ำของเหมืองแม่สอดจะเป็นการจัดการน้ำฝนที่ไหลผ่านพื้นที่ที่ยุติกิจกรรมทำเหมืองแร่และได้ดำเนินการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมแล้วเป็นหลัก
คุณภาพน้ำของโรงงาน
น้ำทิ้งที่บำบัดแล้วจะผ่านการตรวจสอบคุณภาพให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ดังแสดงในตาราง
พารามิเตอร์ | หน่วย | มาตรฐาน1 | จุดระบายน้ำ | |||
A4 | B3 | C12 | D3 | |||
ความเป็นกรด ด่าง (pH) | - | 5.5 - 9 | - | 7.83 - 8.48 | - | 7.64 - 8.45 |
ของแข็งแขวนลอยทั้งหมด (Suspended Solids: SS) | มิลลิกรัมต่อลิตร | < 50 | - | 0.22-39.20 | - | 2.56 - 12.33 |
ของแข็งละลายน้ำทั้งหมด (Total Dissolved Solid: TDS) | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 3,000 | - | 178-754 | - | 128- 180 |
สังกะสี | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 5 | - | <0.01 - 0.33 | - | 0.05 - 0.41 |
แคดเมียม | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 0.03 | - | < 0.01 | - | < 0.01 |
ตะกั่ว | มิลลิกรัมต่อลิตร | ไม่เกิน 0.2 | - | < 0.05 | - | < 0.05 |
คุณภาพน้ำของเหมืองแม่สอด
แม้ว่าเหมืองแม่สอดได้ยุติกิจกรรมการทำเหมืองแร่ไปแล้วตั้งแต่กลางปี 2559 แต่บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการจัดการน้ำฝนตามธรรมชาติที่ไหลผ่านพื้นที่กิจกรรมการทำเหมืองและต้องไหลลงสู่บ่อกักเก็บตะกอนตามมาตรฐานการทำเหมืองที่กำหนดไว้ในแผนผังโครงการทำเหมืองแร่และมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม โดยในปี 2560 ได้ดำเนินการจัดระบบการจัดการน้ำให้ไหลล้นตามธรรมชาติ เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรองให้กับโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริในอนาคต
บ่อกักเก็บตะกอนในพื้นที่เหมืองฯ มีทั้งสิ้น 11 บ่อ สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนในแต่ละพื้นที่ได้ทุกกรณี ในปี 2560 บริษัทฯ ได้ดำเนินการปิดถมบ่อน้ำหมุนเวียนในกระบวนการลอยแร่และดำเนินการฟื้นฟูสภาพแวดล้อม ทั้งปลูกไม้ยืนต้นเต็มพื้นที่เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศต่อไป และจัดการให้น้ำไหลลงบ่อกักเก็บตะกอนตามระบบ ผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำทิ้งของเหมืองแม่สอดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานดังแสดงในตาราง
หมายเหตุ : 1. มาตรฐานอ้างอิงจาก มาตรฐานคุณภาพน้ำทิ้งกระทรวงอุตสาหกรรม
2. ไม่มีการระบายน้ำออกสู่ธรรมชาติ
การจัดการกากของเสียอุตสาหกรรม
พีดีไอจัดการกากของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามหลักวิชาการและแนวปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยใช้หลักการ 3 Rs โดยกากของเสียจะถูกคัดแยกเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยในการจัดการ รวมทั้งการนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อลดปริมาณของเสียและลดการใช้ทรัพยากร ในปี 2560 มีปริมาณกากของเสียจำนวน 350,437 ตัน โดยร้อยละ 95 หรือจำนวน 330,342 ตัน เป็นกากแร่ซึ่งผ่านกระบวนการบำบัดตามมาตรฐานและมีสภาพที่เสถียรแล้วจึงนำไปฝังกลบในบ่อเก็บกากแร่ของโรงงานตากที่ออกแบบและก่อสร้างตามข้อกำหนดของกรมโรงงานอุตสาหกรรมและสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำหรับของเสียอันตรายจำนวน 2,078 ตัน หรือร้อยละ 0.6 นำไปฝังกลบโดยหน่วยงานภายนอกที่ได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ของเสียที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่มีจำนวน 1,163 ตัน ส่งขายให้ผู้รับชื้อที่ได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนขยะมูลฝอยทั่วไปมีปริมาณ 161 ตัน นำไปฝังกลบในหลุมฝังกลบตามหลักสุขาภิบาล
แผนการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเหมืองแม่สอด
พื้นที่โครงการเหมืองแม่สอดของพีดีไอมีจำนวนทั้งหมด 2,078 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ใช้ในกิจกรรมการทำเหมืองแร่ที่ต้องรักษาธรรมชาติดั้งเดิมไว้จำนวน 435 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 21 ของพื้นที่โครงการทั้งหมด และอีกร้อยละ 79 หรือจำนวน 1,643 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ใช้ในกิจกรรมการทำเหมืองแร่ที่ต้องฟื้นฟูสภาพแวดล้อมภายหลังสิ้นสุดกิจกรรมการทำเหมืองแร่แล้ว โดยบริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมมาตั้งแต่ปี 2536 ต่อเนื่อง แม้เหมืองแม่สอดได้หยุดการผลิตแร่มาตั้งแต่เมื่อกลางปี 2559 พีดีไอยังคงดำเนินงานฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในพื้นที่ที่เหลือให้เสร็จสมบูรณ์เพื่อการส่งมอบคืนพื้นที่ให้กับกรมป่าไม้
ณ สิ้นปี 2560 พีดีไอได้ดำเนินการฟื้นฟูพื้นที่ไปแล้ว 1,530 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 93 ของพื้นที่เป้าหมายฟื้นฟูทั้งหมด โดยใช้งบประมาณแล้ว 110 ล้านบาท จากเงินกองทุนเพื่อพัฒนาการฟื้นฟูสภาพเหมืองผาแดงซึ่งได้ตั้งไว้จำนวน 114 ล้านบาท ทั้งนี้แผนการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมจะเสร็จสมบูรณ์ภายในกรกฎาคม 2561
บริษัทฯ ได้ใช้หญ้าแฝกเป็นพืชคลุมดินเพื่อลดการชะล้างพังทลายของดินและเพื่อปรับปรุงคุณภาพดินก่อนการปลูกไม้ยืนต้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่เริ่มฟื้นฟูสภาพแวดล้อมมาจนถึงสิ้นปี 2560 บริษัทฯ ได้ปลูกไม้ยืนต้นแล้วประมาณ 200,000 ต้น และหญ้าแฝกประมาณ 25 ล้านต้น ส่งผลให้เหมืองแม่สอดของพีดีไอเป็นแหล่งปลูกหญ้าแฝกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และเป็นเหมืองแร่ต้นแบบที่นำมาหญ้าแฝกมาใช้ในการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมอย่างจริงจัง จนได้รับรางวัลสถานประกอบการเหมืองแร่สีเขียวติดต่อกันหลายปี และได้รับรางวัล The King of Thailand’s Certificate of Excellence ด้านการส่งเสริมและการใช้งานระบบหญ้าแฝกดีเด่น ประเภทการใช้งานระบบหญ้าแฝก จากมูลนิธิชัยพัฒนา โดยเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อปี 2558 นอกจากนี้เหมืองแม่สอดยังเป็นแหล่งศึกษาดูงานด้านงานฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถาบันการศึกษา ตลอดจนองค์กรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับพื้นที่ที่ฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ จะทยอยส่งมอบให้โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรที่พระราชทานให้กับนายอาสา สารสิน ประธานกรรมการบริษัท ผาแดงอินดัสทรี จำกัด(มหาชน) เมื่อปี 2546
การพัฒนาพื้นที่โครงการเหมืองแร่ให้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับ “โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม” ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2558 โดยมีกรมป่าไม้เป็นผู้ดำเนินการหลัก และมีสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เป็นผู้ประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์ต่อไป
ต่อมาปี 2559 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับแนวทางการพัฒนาพื้นที่กิจกรรมเหมืองที่ผ่านการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมแล้วให้เป็นศูนย์การพัฒนาและแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ ตามที่นายอาสา สารสิน ประธานกรรมการ บริษัทฯ ได้กราบบังคมทูลเกี่ยวกับการดำเนินการของเหมืองผาแดงที่จะยุติการทำเหมืองในปี 2559 พร้อมทั้งขอพระราชทานอนุญาตน้อมเกล้าฯ ถวายเรือนรับรองที่ประทับและอาคารโดยรอบ และแนวทางการพัฒนาพื้นที่กิจกรรมเหมืองที่ผ่านการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมแล้วให้เป็นศูนย์การพัฒนาและแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติ อันประกอบด้วยแนวทางต่างๆ ดังนี้
- ศูนย์อบรมสัมมนาด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
- พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่สังกะสีดอยผาแดง
- ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ
- ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้ป่าและพืชท้องถิ่น
- ศูนย์พัฒนาและส่งเสริมการใช้หญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ
- สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและแหล่งนันทนาการ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินปฏิบัติพระราชกรณียกิจในเขตพื้นที่จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม 2559 ในการนี้ มีพระราชดำริในพื้นที่โครงการฯ สรุปความว่า “ขอให้ดำเนินการรวบรวมพรรณไม้และจัดทำสวนพฤกษศาสตร์เพื่อเป็นการอนุรักษ์ และเป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชนและผู้ที่สนใจศึกษาต่อไป”
สำหรับพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่สังกะสีดอยผาแดง ซึ่งบริษัทฯ รับผิดชอบและอยู่ระหว่างดำเนินการนั้น บริษัทฯ ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทำการออกแบบทางสถาปัตยกรรมทั้งภายในและภายนอก ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 29 ไร่ โดยจะนำเสนอประวัติความเป็นมาของพื้นที่และวิถีชีวิตชุมชนท้องถิ่น ข้อมูลวิชาการด้านธรณีวิทยา การสำรวจแหล่งแร่ ประโยชน์ของการทำเหมืองแร่และถลุงโลหะสังกะสีต่อการพัฒนาประเทศ กระบวนการทำเหมืองและการถลุงแร่สังกะสีที่ครบวงจร การฟื้นฟูสภาพพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองแล้วให้คืนสู่สภาพป่าที่สมบูรณ์ตามแนวพระราชดำริ รูปแบบการนำเสนอจะประกอบด้วย ชุดข้อมูลความรู้ แผนภูมิ แผนที่ ภาพถ่าย แบบจำลอง วัตถุจัดแสดง รวมทั้งการนำเทคโนโลยีสื่อผสมผสาน เพื่อให้มีความน่าสนใจมากขึ้น พิพิธภัณฑ์เหมืองแร่สังกะสีดอยผาแดงจะเป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆ ให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษาและผู้สนใจโดยทั่วไป การจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ จะแล้วเสร็จภายในปี 2561 และส่งมอบให้กับกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่เพื่อทำหน้าที่บริหารจัดการดูแลพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่สังกะสีดอยผาแดงต่อไป
บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการก่อสร้างเจดีย์พระธาตุดอยผาแดงในปี 2560 โดยได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 80 ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ใช้เป็นสถานที่เก็บกองดินจากการทำเหมืองซึ่งได้ผ่านการฟื้นฟูสภาพพื้นที่แล้ว เจดีย์ดังกล่าวได้รับการออกแบบโดยสำนักงานศิลปากรที่ 6 จังหวัดสุโขทัย ส่วนพระพุทธรูปที่จะประดิษฐานภายในเจดีย์จะจัดสร้างขึ้นโดยความร่วมมือของวัดและชุมชนท้องถิ่น เพื่อเป็นศูนย์รวมทางจิตใจและความร่วมมือของชุมชน คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2561 แล้วจะส่งมอบให้กรมป่าไม้และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันดูแลบำรุงรักษาและอำนวยความสะดวกในการประกอบศาสนกิจและการสักการะเจดีย์พระธาตุดอยผาแดงของประชาชนต่อไป